ความยืดหยุ่นคือกุญแจเลี้ยงลูกให้มีความสุขในยุคนี้

ความยืดหยุ่นคือกุญแจเลี้ยงลูกให้มีความสุขในยุคนี้

 

พ่อแม่ ผู้ปกครองที่ต้องเลี้ยงลูกให้มีความสุขท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ ควรมีการปรับตัวด้วยกุญแจสำคัญคือ “ความยืดหยุ่น” ในการเลี้ยงลูกควบคู่ไปกับการปรับมุมมองของพ่อแม่เอง โดยใช้หลักการเหล่านี้นะคะ

#ปล่อยให้ลูกได้เล่นอย่างมีอิสระเสรี

เมื่อมีวิธีป้องกันอย่างเหมาะสม ควรปล่อยให้ลูกๆ ได้เล่นตามวัยบ้าง ได้เรียนรู้ทักษะ กติกาทางสังคม และการเข้าสังคมได้ การเล่น” คือสิ่งที่มอบประสบการณ์ชีวิตให้กับลูกได้ดีที่สุด เป็นหนึ่งในวิธีเลี้ยงลูกให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความยืดหยุ่นทางอารมณ์ จัดการกับความเครียดได้ดีและสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตได้อย่างเหมาะสมและมีความสุข

#เลี้ยงลูกให้เป็นตัวของตัวเอ

อินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียคือสิ่งปกติที่เด็ก ๆ หรือลูก ๆ ของเรารู้จักตั้งแต่เกิด พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องปรับตัวและใช้ประโยชน์จากข้อดีของสิ่งเหล่านี้ นำมาช่วยเลี้ยงลูกให้ค้นพบความชอบและเห็นคุณค่าของตัวเอง โดยไม่ต้องมาคอยพะวงกับเรื่องความสมบูรณ์แบบ และช่วยให้ลูกมีความสุขได้ในแบบฉบับของตัวเองได้

#เสริมสร้างความฉลาด ควบคู่กับความเฉลียว

ตัวช่วยของคุณพ่อคุณแม่ที่พัฒนาความ “ฉลาด” ของลูกประเภท IQ ได้เป็นอย่างดือ เทคโนโลยี แต่ในยุคที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้ เด็กจึงจำเป็นจะต้องถูกพัฒนาความ “เฉลียว” ควบคู่กันไปด้วย สามารถช่วยให้ลูก ๆ รู้จัก คิด วิเคราะห์ และแยกแยะข้อมูลให้จำนวนมากได้ ส่งผลต่อการตัดสินใจและกลั่นกรองข้อมูลที่ได้รับมาทำให้ไม่หลงเชื่อสิ่งรอบข้างได้ง่าย ๆ เด็กที่ได้รับการพัฒนาสองสิ่งนี้ควบคู่กันจะสามารถอยู่ในยุคนี้ได้อย่างมีความสุข

#อย่าเลี้ยงลูกแบบปกป้องหรือตามใจมากจนเกินไป

“ตึงในบางโอกาส หย่อนในบางเวลา” ความยืดหยุ่นที่พ่อแม่ต้องคอยบอกตัวเอง คือเลี้ยงลูกในแบบให้เขาได้ลองผิดลองถูกเมื่อล้มก็กล้าที่จะลุก เป็นการฝึกทักษะฝึกใจให้เข้มแข็งให้กับลูกคอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจอยู่ห่าง ๆ ให้คำแนะนำที่เหมาะสม ช่วยให้ลูกฝึกการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง สอนทักษะการเรียนรู้ที่จำเป็นให้เขา เช่น การทักทาย ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ แล้วค่อย ๆ ปล่อยให้ลูกได้มีการตัดสินใจเอง

#สอนให้รู้จักอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ พร้อมเปลี่ยนเชิงลบเป็นเชิงบวก

สอนให้ลูกรู้ว่า “อารมณ์ความรู้สึก” คือสิ่งที่เกิดขึ้นและสามารถจัดการได้ ความรู้สึกเชิงลบเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่สามารถเปลี่ยนเป็นความรู้สึกเชิงบวกได้เช่นกัน สอนว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่สีขาวและดำ ควรให้ลูกได้มองโลกตามความเป็นจริง สำคัญคือ“การรับฟังสิ่งที่ลูกพูด” รับฟังลูกว่า ความรู้สึกเชิงลบนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร แล้วค่อย ๆ นำเสนอวิธีจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง สามารถคิดและแยกแยะสิ่งต่าง ๆ อย่างเป็นระบบมากขึ้น

#สอนให้เห็นอกเห็นใจผู้อื่น

การเลี้ยงลูกให้เข้าใจความหลากหลายนั้นเป็นสิ่งสำคัญ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างได้ พ่อแม่ ผู้ปกครองคือตัวอย่างที่ดีที่สุด ที่จะสอนให้ลูกรู้จัก เรียนรู้ และเข้าใจความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น ช่วยให้ลูกมีความสุขจากการให้ และรับรู้ถึงความรู้สึกของผู้อื่นได้มากขึ้น

#พัฒนาความคิดให้เป็นทักษะและบุคลิกที่ดี

ผลักดันความคิดที่สร้างสรรค์ให้เป็นทักษะที่ติดตัวลูก ทั้งทักษะเกี่ยวกับการพูด การทำงานเป็นทีม หรือทางศิลปะแขนงต่าง ๆ เมื่อเด็กเข้าใจในสิ่งที่ตนเองชอบแล้ว จะไม่เกิดการกดดันตัวเองเมื่อโตขึ้น ได้พัฒนาทักษะของตัวเองในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่ และมีบุคลิกลักษณะทางอารมณ์ที่สมวัย

#สอนให้เผชิญหน้ากับปัญหา พร้อมแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

การที่ให้ลูก ๆ ได้เผชิญหน้ากับปัญหานั้นด้วยตัวเองตั้งแต่เด็ก ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันทางการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเด็กได้ แต่ต้องอยู่ในสายตาของผู้ปกครอง หากผิดพ่อแม่จำเป็นจะต้องอยู่ข้าง ๆ และเปิดโอกาสให้ลูกเสนอวิธีการแก้ปัญหากับสิ่งที่เผชิญอยู่และพร้อมสนับสนุน จะช่วยให้การเลี้ยงลูกยุคใหม่เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

 

ความรัก ความเอาใจใส่ และความเข้าใจในทุก ๆ ขั้นตอนของการเลี้ยงลูก จะสามารถจัดการกับปัญหาตรงหน้าได้อย่างเป็นระบบ และร่วมกันสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ให้ลูกเติบโตไปอย่างมีความสุขได้อย่างแน่นอน…
.

.

ติดตามกันต่อในบทความหน้านะคะ

 

#ความยืดหยุ่นคือกุญแจเลี้ยงลูกให้มีความสุขในยุคนี้ #เทคนิคการเลี้ยงลูก #เสริมพัฒนาการ #nubycomfortthailand #nubyผ้าอ้อมไม่แฉะ #คุณแม่มือใหม่ #ผ้าอ้อมคุณภาพ #ราคาเบาๆ #ราคาสบายกระเป๋า

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *